น้ำมันมะพร้าวมีกี่ชนิด
น้ำมันมะพร้าว (Coconut Oil) เป็นน้ำมันที่ได้จากการสกัดส่วนของเนื้อมะพร้าว โดยแยกเอาเฉพาะส่วนของน้ำมันออกมา โดยแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่
1. น้ำมันมะพร้าว (Refined Bleaching Deodorizing Coconut Oil: RBD) เป็นน้ำมันที่ได้จากเนื้อมะพร้าวห้าวหรือเนื้อมะพร้าวแห้ง (Copra) ด้วยกรรมวิธีการสกัดด้วยตัวทำละลาย โดยผ่านความร้อนสูง 3 กระบวนการ ได้แก่
- การทำให้บริสุทธิ์ (Refining)
- การฟอกสี (Bleaching) และ
- การกำจัดกลิ่น (Deodorization)
ทำให้ได้น้ำมันมะพร้าวที่มีสีเหลืองอ่อน ปราศจากกลิ่น รส และมีกรดไขมันอิสระไม่เกินร้อยละ 0.1 แต่วิตามินอีในน้ำมันมะพร้าวจะถูกกำจัดออกไป เหมาะกับการใช้ในครัว ทอด ผัด
2. น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ หรือ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น (Virgin Coconut Oil: VCO) น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น มีกรรมวิธีการสกัดโดยไม่ผ่านกระบวนการที่ใช้ความร้อนสูง ไม่ผ่านกระบวนการแปรรูปทางเคมี มีสีใสเหมือนน้ำ มีวิตามินอี ไม่ผ่านกระบวนการเติมออกซิเจน มีค่าเบอร์ออกไซด์ กรดไขมันต่ำ และมีกลิ่นมะพร้าวอ่อน ๆ เหมาะการบริโภคโดยตรง/เติมในอาหาร
- ไม่ผ่านความร้อนสูง/ไม่ใช้สารเคมี สีใส กลิ่นมะพร้าวอ่อน
- คงสารธรรมชาติ (เช่นโทโคฟีรอล), กรดไขมันอิ่มตัวสายกลาง (เช่นลอริก)
- เหมาะการบริโภคโดยตรง/เติมในอาหาร/สกินแคร์เบา ๆ
- น้ำมันมะพร้าวมีกรดไขมันอิ่มตัวเป็นหลัก โดย “สายกลาง (MCFAs)” เป็นสัดส่วนสำคัญ แตกต่างจากไขมันสัตว์ที่มีสายยาวเด่น
MCT Oil คืออะไร ต่างจาก VCO (Virgin Coconut Oil) อย่างไร?
- MCT (Medium-Chain Triglycerides) คือกรดไขมันสายกลางที่ถูก “คัดให้เข้มข้น”
- รส/กลิ่นเป็นกลาง ดูดซึมเร็ว ส่งต่อไปตับได้ไวกว่าไขมันสายยาว และอาจถูกเปลี่ยนเป็น คีโตน ซึ่งซึ่งสารคีโตนนี้เป็นสารที่เป็นแหล่งพลังงานสำคัญของสมอง ทำให้ช่วยฟื้นฟูความจำ ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ อีกทั้งกรดไขมันจากน้ำมันมะพร้าวจะช่วยให้ต่อมไทรอยด์ทำงานได้ดีขึ้น จึงมีผลให้ระบบเผาผลาญไขมันโดยเฉพาะไขมันช่องท้องทำงานได้ดีมากขึ้น จึงช่วยป้องกันโรคเส้นเลือดหัวใจอุดตัน รวมถึงป้องกันโรคความดันโลหิตสูงได้ นอกจากนี้ผลพลอยได้จากอัตราการเผาผลาญที่เพิ่มขึ้น ไขมันและน้ำตาลที่สะสมในร่างกายถูกนำไปเผาผลาญเป็นพลังงาน ทำให้ช่วยลดระดับน้ำตาล และลดอัตราการเกิดโรคเบาหวานได้
- ต่างจาก VCO: VCO คือ “น้ำมันทั้งตัว” จากมะพร้าว (มีกรดไขมันหลายชนิด + กลิ่นรสธรรมชาติ) ส่วน MCT คือ “ส่วนที่เข้มข้นของสายกลาง” เน้นพลังงานดูดซึมเร็วและไม่มีกลิ่น
ทำไม “น้ำมันมะพร้าวผสม MCT” จึงน่าสนใจ?
การผสม VCO + MCT ช่วยรวมจุดเด่น—กลิ่นรสและสารตามธรรมชาติของ VCO + การดูดซึมเร็วและความเป็นกลางของ MCT
ด้านพลังงานและโฟกัส
- MCT ถูกดูดซึมและไปที่ตับเร็วกว่า อาจช่วยให้รู้สึกมีพลัง/อิ่มนานขึ้นเมื่อใช้ในปริมาณเหมาะสม
- VCO มี กรดลอริก (C12) ซึ่งมีบทบาทด้านสมดุลจุลชีพและคุณสมบัติเสริมทั่วไป เพิ่มความครบถ้วนของการบริโภคไขมันจากมะพร้าวตามธรรมชาติ
ด้านการเผาผลาญและการควบคุมอาหาร
- MCT มักถูกใช้ในแนวทางคุมอาหาร/คีโต (เพราะให้พลังงานเร็วและอาจเพิ่มคีโตน)
- การผสมกับ VCO ช่วยให้ได้ทั้ง “พลังงานทางเลือก” และ “กลิ่นรส/เนื้อสัมผัส” ใช้ในครัวง่ายขึ้น
H3 ด้านผิวพรรณและเส้นผม

