น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสคืออะไร
น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส (Evening Primrose Oil หรือ EPO) เป็นน้ำมันสกัดจากเมล็ดของดอกอิฟนิ่งพริมโรส (ชื่อทางการ Oenothera biennis) ที่มีสารสำคัญคือ กรดแกมมาไลโนเลนิก (GLA) กรดไขมันโอเมก้า-6 ที่ร่างกายใช้สร้างสารคล้ายฮอร์โมน (prostaglandins) ซึ่งมีบทบาทเกี่ยวกับการอักเสบและสมดุลฮอร์โมน ทำให้ถูกพูดถึงมากในด้านสุขภาพผู้หญิงและการดูแลผิวพรรณ

1. สุขภาพผิวพรรณ
- ช่วยเรื่องผิวแห้งแตก ขาดน้ำ: งานวิจัยบางส่วนพบว่า การรับประทาน น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส ติดต่อกันช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นผิว
- ในคนสุขภาพดี 12 สัปดาห์ น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส 3 กรัม/วัน ทำให้ชุ่มชื้นดีขึ้น, TEWL (ผิวสูญเสียน้ำ) ลดลง, ผิวยืดหยุ่นขึ้น (หลักฐานงานวิจัย)
- อาจช่วยลดอาการระคายเคือง: จากกลไกการลดการอักเสบในผิวหนัง
- เสริมเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier): ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นและทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดี
2. สิวและปัญหาผิว
- อาจช่วยควบคุมความมันและการอักเสบเล็กน้อย จาก GLA
- ใช้ GLA 400 มก./วัน 10 สัปดาห์ สิวลดลงเมื่อเทียบก่อนเริ่ม (หลักฐานงานวิจัย)
- ใช้ร่วมกับการรักษาสิว (เช่น ไอโซเตรทิโนอิน): มีงานวิจัยชี้ว่า น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส อาจช่วยลดอาการผิวแห้งแตกที่เกิดจากยา
- น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส ใช้ร่วมกับ ไอโซเตรทิโนอิน เพิ่มความชุ่มชื้นผิว และปรับไขมันในเลือดได้ดีกว่ากลุ่มควบคุม (หลักฐานงานวิจัย)
3. อาการก่อนมีประจำเดือน (PMS)
- บางงานวิจัยพบว่า น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส อาจช่วยลดอาการหงุดหงิด คัดตึงเต้านม และปวดท้อง ที่เกิดจาก PMS ได้ แม้ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคล
4. สุขภาพสตรีวัยทอง
- บางรายงานชี้ว่า น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส อาจช่วยบรรเทาอาการ ร้อนวูบวาบ (Hot flashes) และอาการไม่สบายตัวในวัยทอง แต่หลักฐานยังไม่ชัดเจน
5. ระบบภูมิคุ้มกันและการอักเสบ
- GLA ใน น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส อาจมีผลช่วย ลดการอักเสบเรื้อรัง และเสริมภูมิคุ้มกันบางส่วน
วิธีใช้และปริมาณที่พบบ่อย
ข้อมูลนี้เป็น การอ้างอิงจากงานวิจัย ไม่ใช่คำสั่งแพทย์
- ปริมาณที่ใช้กันทั่วไป: 500 มก. – 2,000 มก./วัน (ขึ้นกับสูตรและวัตถุประสงค์)
- ควร เริ่มจากปริมาณน้อย ค่อย ๆ เพิ่ม เพื่อให้ร่างกายปรับตัว
- รับประทานพร้อมอาหาร ช่วยให้ดูดซึมได้ดีขึ้น
ข้อควรระวัง
- ผลข้างเคียง: อาจทำให้คลื่นไส้ ปวดท้อง หรือถ่ายเหลวได้ในบางคน
- หญิงตั้งครรภ์ / ให้นมบุตร: ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้
- ผู้ใช้ยาละลายลิ่มเลือด / ยาต้านการแข็งตัวของเลือด: อาจมีความเสี่ยงเลือดออกมากขึ้น
- ผู้มีประวัติชัก: มีรายงานบางส่วนว่าอาจกระตุ้นอาการ
